แลมพาร์ด เปิดใจหลังรับงานคุมทีม เชลซี รอบที่สองอย่างเป็นทางการ

 


แฟรงค์ แลมพาร์ด กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากเข้ารับงานคุมทีม เชลซี หนที่สอง โดยครั้งนี้จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวจนจบฤดูกาล

เชลซี ปลด เกรแฮม พ็อตเตอร์ ออกจากตำแหน่งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเขาจะมีข่าวลือพัวพันกับผู้จัดการทีมชื่อดังหลายคน แต่สุดท้ายกลับเป็น แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตตำนานสโมสรที่เข้ามารับไม้ต่อชั่วคราวทำทีมจนจบฤดูกาลนี้

โดยกุนซือวัย 44 ปี ออกมาเปิดใจหลังจากเข้ารับงานว่า "ผมแทบไม่ต้องคิดเลย ที่นี่เป็นเหมือนบ้านที่ผมผูกพันมานานหลายสิบปี"

"มันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจนะ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสโมสรจะติดสินใจอย่างไร แต่ปีนี้ใน พรีเมียร์ลีก มีการเปลี่ยนแปลงเกินขึ้นมากมายอย่างที่เราได้เห็นกัน ผมเห็นใจผู้จัดการทีมทุกคนที่ต้องแยกทางกับสโมสร สำหรับผมงานนี้คือความท้าทาย และผมพร้อมสำหรับหน้าที่ในครั้งนี้"

"ผมมาพร้อมกับความเชื่อ เชื่อว่าจะสามารถตอบสนองสิ่งที่สโมสรและแฟนบอลคาดหวังให้ได้จนจบฤดูกาล ในมุมของผมทีมชุดนี้เปี่ยมไปด้วยคุณภาพแน่นอนผมจะทำมันให้ดีที่สุด"

นอกจากนี้เจ้าตัวยังถูกถามถึงประเด็นของ เมสัน เมานท์ ดาวเตะที่แจ้งเกิดในยุคของ แลมพาร์ด แต่ปัจจุบันดูเหมือนจะกลายเป็นส่วนเกินหลังจากไม่ได้ลงเล่นเลยแม้แต่นาทีเดียวตลอด 2 เกมที่ผ่านมา แถมยังมีข่าวการไม่ต่อสัญญาและอาจจะย้ายทีมเนื่องจากสัญญาที่กำลังจะหมดลงในปี 2024

แลมพาร์ด เผยว่า "เมานท์ คือนักเตะที่มหัศจรรย์สำหรับช่วงเวลาที่เคยร่วมงานกับผมทั้งที่ ดาร์บี้ และ เชลซี ก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาประสบปัญหาการบาดเจ็บรบกวน ซึ่งผมคงต้องคุยกับเขาดูก่อนว่าความต้องการของเขาคืออะไร ผมรู้ว่าเขาทำอะไรได้บ้าง เมานท์ คือนักเตะที่ยิ่งใหญ่สำหรับ เชลซี"

"ฟุตบอลสมัยนี้ขนาดของทีมเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่ง เชลซี เป็นทีมที่มีทรัพยากรที่เพียบพร้อมและผมเข้าใจถึงสิ่งนั้นดี บางทีในระยะสั้นนี่อาจเป็นประโยนช์สำหรับผมที่มีนักเตะมากมายให้เลือกใช้ ซึ่ง เมานท์ เองก็จะเป็นหนึ่งในนั้น"

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : วิเคราะห์บอลแม่นๆ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ฟุตบอลโลกของลิโอเนล เมสซี? ทีมอาร์เจนตินาที่สร้างขึ้นรอบตัวเขาสะท้อนถึงความสำเร็จของ Diego Maradona ในเม็กซิโกในปี 1986

เชลซี – ไคเซโด้ อีกหนึ่งมหากาพย์ที่ยังคงไม่จบลงง่ายๆ

อวยสนั่น! โนเบิ้ล ยก อาร์เซน่อล ถึงแชมป์หลังได้ ไรซ์